Posts

Showing posts from April, 2013

คาถาหัวใจเศรษฐีของท่านว.วชิรเมธี กับธุรกิจครอบครัว

คาถาหัวใจเศรษฐีของท่านว.วชิรเมธี กับธุรกิจครอบครัว ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "เคล็ดลับหัวใจเศรษฐี" ซึ่งเขียนโดยท่าน ว.วชิรเมธี ปราชญ์ทางพุทธศาสนาคนสำคัญแห่งเมืองไทย ยั่งยืนควรได้อ่านหนังสือเล่มนี้ หลังจากได้อ่านรวดเดียวจบผมพบว่าสำหรับธุรกิจครอบครัวที่ต้องการรักษาความยั่งยืนควรได้อ่านหนังสือเล่มนี้ การสืบทอดธุรกิจครอบครัวอย่างยั่งยืนอย่างเศรษฐีนั้น ถ้าตามความหมายทั่วไปก็คือ คำว่า "เศรษฐี" หลายคนคงเข้าใจผิดว่าแปลว่าผู้มีทรัพย์มาก แต่ความจริงแล้ว "เศรษฐี" นั้น ท่าน ว.วชิรเมธี ให้หมายถึง "คนใจบุญ คนมีคุณธรรมที่ประเสริฐเลิศล้ำ" ส่วนคนที่มีทรัพย์มากนั้น เขาเรียกว่า "มหาวาณิช" ความหมายของคำว่า"เศรษฐี" กับ "คนรวย" จึงต่างกัน คำว่า "มหาวาณิช" แต่พ่อค้าสามารถเป็นเศรษฐีได้ถ้ารู้จักเปลี่ยนทุนให้เป็นธรรม ดังนั้น ธุรกิจครอบครัวที่จะยั่งยืนนั้น นอกจากจะทำให้ธุรกิจเจริญเติบโตมีความเป็นมหาวาณิชแล้ว มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นเศรษฐีด้วย หนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีง่ายๆ ของเคล็ดลับหัวใจเศรษฐี ท่านว.วชิรเมธี ได้กล่าวไว้

"ผู้มีคุณธรรม จะไม่โดดเดี่ยว

Image
"ผู้มีคุณธรรม จะไม่โดดเดี่ยว จะต้องมีผู้คนแบบเดียวกันสนับสนุน" #คำคมผู้นำ (Via @ Join White MLM  )

สัตว์ในโลกนี้ ที่มีกิเลสบางเบาพอที่จะฟังธรรมเข้าใจนั้นมีอยู่

Image
ตอนท้าวสหัมบดีพรหมลงมาทูลอาราธ นาพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรมโปร ดชาวโลกนี้ กวี ท่านแต่งเป็นอินทรวงศ์ฉันท์ภาษา บาลีไว้ว่า "พรหฺมา จ โลกาธิปตี สหมฺปติ กตฺอญฺชลี อนฺธิวรํ อยาจถ สนฺตีธ สตฺตาปฺปรชกฺขชาติกา เทเสตุ ธมฺมํ อนุกมฺปิมํ ปชํ" แปลว่า "ท้าวสหัสบดีพรหม ประณมกรกราบอาราธนาพระพุทธเจ้าผุ้ทรงคุณอันประเสริฐว่า สัตว์ในโลกนี้ ที่มีกิเลสบางเบาพอที่จะฟังธรรม เข้าใจนั้นมีอยู่ ขอพระองค์ได้โปรดแสดงธรรมช่วยเห ลือชาวโลกเทอญ" ต่อมาภาษาบาลีที่เป็นฉันท์บทนี้  ได้กลายเป็นคำสำหรับอาราธนาพระส งฆ์ในเมืองไทยให้แสดงธรรมมาจนทุ กวันนี้ ภาพที่ ๓๒ กลับมาประทับโคนต้นไทร ท้อพระทัยในอันโปรดสัตว์ สหัสบดีพรหมต้องทูลวิงวอน

ความนอบน้อมถ่อมตน

ความนอบน้อมถ่อมตนกับคนที่มีอาวุ โสกว่าถือว่าเป็นหน้าที่  ความนอบน้อมถ่อมตนกับคนในระดับเ ดียวกันถีอว่าเป็นมรรยาท  ความนอบน้อมถ่อมตนกับคนที่ต่ำกว่ าถีอว่าเป็นความสง่างาม ยิ่งขึ้นสูงมากเท่าไร ความนอบน้อมถ่อมตัวต้องเพิ่มมาก ขึ้นเป็นทวีคูณ คุณสมบัตินี้จะทำให้ผู้คนต้องหั นหลังกลับมามองคุณด้วยความชื่นช ม

สะเดา มากคุณค่า เกินคาดเดา

Image
          ถ้าให้เอ่ยชื่อผักรสขม เชื่อได้เลยว่า ชื่อแรกที่แทบทุกคนจะนึกถึงคือ "สะเดา" มีบันทึกว่า คนไทยกินสะเดาเป็นผักตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น คนไทยมักกินยอด และดอกสะเดาในช่วงต้นฤดูหนาว เพราะเชื่อว่า "กินสะเดาก่อนเป็นไข้ ช่วยป้องกันไข้ได้ กินสะเดาเมื่อเป็นไข้แล้ว รักษาให้หายไข้ได้"           ชาวไทยแต่ก่อนถือว่า สะเดาเป็นต้นไม้มงคล ควรปลูกในบริเวณบ้าน โดยกำหนดให้ปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และความที่ถือว่าเป็นไม้มงคลนี่ด้วยกระมัง สะเดาช้างจึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นพันธุ์ไม้ประจำจังหวัดสงขลา และสะเดาไทยทั่วไป เป็นพันธุ์ไม้ประจำจังหวัดอุทัยธานีทีเดียว           ไม่ผิดเลยที่กล่าวว่าเป็นต้นไม้มงคล เพราะสะเดารวมทุกสิ่งพร้อมเสร็จสรรพในต้น ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม กล่าวว่า "ในสะเดาตัวเดียวมีปัจจัยถึง 3 ตัวคือ เป็นยา อาหาร และเป็นไม้ใช้สอยทำที่อยู่อาศัยได้ ถ้าสะเดาอายุ 20 ปี เนื้อไม้จะแกร่งเหมือนไม้แดง ไม้ประดู่ แก่นมีสีสวย ทำไม้พื้น ทำเฟอร์นิเจอร์ได้ มอดไม่กิน" และคุณสมบัติเด่นอีกประการหนึ่งคือ เป็นแปรงและยาสีฟันอย่างดี           สะเดาปลูกง่าย โตเร็ว ทนต่อส