ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 ปี

 คนเรา ย่างจากวัยเด็ก มาเป็นคนหนุ่มสาว สิ่งที่ตามมาด้วยคือ แนวคิด ข้อมูล หลักเหตุผล และศีลธรรม จรรยา มารยาท
คนที่คนเขาเรียกว่า มีการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี เขาหมายถึง ก่อนที่จะโตเป็นหนุ่มสาว คือวัยเด็กนั่นเอง หากไม่ได้อบรมมา สิ่งที่ตามมาจะขาดไป 2-3 อย่างหรือมากกว่านั้นเช่น ศีลธรรม จรรยา และ มารยาท เป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม กลไกการเอาตัวรอดในธรรมชาติ อย่างไรเสียก็มีอยู่ในคนหนุ่มสาว คือเรื่อง ของ แนวคิด ข้อมูล หลักเหตุผล เมื่อคนเราในสมัยนี้กลายเป็นว่ามีแต่สิ่งเหล่านี้ การปฏิบัติต่อกันก็ยากจะหาความ ละมุนละไม เพราะต่างคนต่างก็คิดแต่เหตุผลของตน ไม่ว่าจะคนชั้นล่าง ชั้นกลาง หรือกว่านั้น ร้อยจนเกือบร้อย ที่อาจารย์ผ่านชีวิตมาจะ 40 ปี พบว่า คนต่างก็เข้าข้างตัวเอง หากฝ่ายตรงข้ามไม่มีอำนาจมากพอที่จะข่มตน

    ในกลุ่มวัยรุ่นไทยจะพบว่า มักจะทำอะไรเป็นกลุ่ม ตามเพื่อน จนเกินไป สมัยเรียนจะพบว่า ไปกินข้าวก็เป็นกลุ่ม ทำงานแล้วก็ยังทำอย่างนั้น ขณะที่คนญี่ปุ่น เอาสำรับมากินที่ทำงาน ไม่แปลกที่ชาติของเขาพัฒนากันโครมๆ ขณะที่ของเรา กว่าจะสั่งข้าวครบคนก็ผ่านไปแล้วเกือบ 20 นาที กว่าจะทำเสร็จ เสิร์ฟ กินจนเสร็จก็มาทำงานช่วงบ่ายสายไป 10-30 นาที เป็นประจำ จริงไหม

    เอาล่ะ ประเด็นในการคุยวันนี้ก็คือ เมื่อเราต่างมีเหตุผล คิดเข้าข้างตัวเอง เช่นนี้ เราย่อมต้องเจอเรื่อง ไม่สบอารมณ์มากพอสมควร ตั้งแต่ทำงานมาจนอายุใกล้ 40 ปี แต่อาจารย์ขอฝากว่า กลไกธรรมชาติมันจะทำให้คิดได้เองว่า ชีวิตเป็นอย่างไร อะไรข้ามได้ก็ข้าม เพราะการ ทะเลาะ ไม่ทนกับคำพูดแย่ๆ มันไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่การเลือก เวลาจังหวะ ในการจัดการปัญหาต่างหากที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้ผ่านไปด้วยดี แล้วมันก็จะเป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก

     วัยหนุ่มสาวจึงเป็นวัยที่ ยังมีพลังงานมาก เจอปัญหาค่อยๆ ขัดเกลาตัวเราครับ ไม่ใช่แก้ปัญหา แต่ให้ขัดเกลาตัวเราว่า จะผ่านปัญหาต่างๆ ไปได้อย่างไรแบบที่ ฉลาดกว่า เยี่ยมกว่า นานวันเมื่อใจเราคุ้นชินมันจะทำให้ เกิดสิ่งที่เรียกว่า ความชำนาญทางอารมณ์ นั่นคือ เราพบปัญหาใดๆ จะพบว่า
มันจะมี ช่วงเริ่มต้น ช่วงขัดเกลา และช่วงจบ

   เช่นว่า เจอพนักงานขายแย่ๆ   เราถามจะซื้อของชิ้นนี้ เขาก็บอกชิ้นนี้ไม่ดี เอาชิ้นนี้ดีกว่า
  หลายคนเจอแบบนี้ ก็อารมณ์เสีย ขณะที่คนอายุใกล้ 40 ไม่มีใครไม่เจอเรื่องแบบนี้ เขาจะรู้เลยว่า ไม่ซื้อเสียอย่างมันก็จบ เดินออกมา เราก็ไปหาซื้อที่อื่น คนขายคนนั้นหากยังเป็นแบบนี้ ก็ขายของไม่ได้ นานไปผู้จัดการแผนก ก็เชิญออก  มันเป็นแบบนี้ ตลอดไป

   คนใกล้ 40 จึงเริ่มเชียวชาญเรื่องทำนองนี้ เพราะขัดเกลามามาก และพบมามากว่า จะทำเรื่องหรือไม่ทำเรื่อง ชีวิตก็เดินไปข้างหน้า ดังนั้นไม่จำเป็นไม่เสียพลังงานกับเรื่อง ไร้สาระ พวกนี้ ปัญหาหนักๆ ก็ผ่านมาคนละ 20-25 ปีทีเหลือ คือ กำไรชีวิต มีอีกก็ ขัดเกลาอีก ไม่มีก็แล้วไป สำคัญ ทุกวัน
ต้องคิด เป็นสุขให้ได้

  สังคมฝรั่งอาจารย์คาดว่าน่าจะทุกข์ยากลำบากกว่าเราตอนอายุ อยู่ในวัยทำงาน เพราะ เมื่อออกมาจากบ้านแล้ว มักจะหากินเอง ส่งตัวเองเรียนเอง สังคมของเขาเน้นการพึ่งตนเองอย่างมาก ผู้ชายที่อายุเป็นผู้ใหญ่แล้วนี่ ใครอยู่กับพ่อแม่ อาจารย์เคยดูในหนัง เขาว่าเป็นลูกแหง่ ผิดปกติ ขนาดนั้นกันเลย แต่คนไทยเรา
จนทำงานแล้ว ยังสามารถใช้เงินไปเรื่อยแล้วยังขอพ่อแม่ หยิบยืมกันเป็นเรื่องธรรมดา นี่ล่ะ ฝรั่งมันถึงลำบากกว่าเรา ต้องผ่านปัญหาแรงๆ มามาก เหล้า ยา เซ็ก และอื่นๆ ที่ต่างคนต่างอยู่ ตามวัฒนธรรมของเขา พอใกล้อายุ 40 คิดได้เอง ผ่านปัญหามาเอง ก็ยังไม่ตายนี่ เขาก็คิดได้เหมือนเรา แต่เขาอาจจะผ่านมาแรงๆ แรงจริง พอสบาย เอาช่วงกลางชีวติก็บอกว่า วัย 40 ปีนี่คือ การเริ่มต้นของชีวิตจริงๆ หรือที่เขาเรียกว่า

    "ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 ปี"

   อย่างไรก็ตาม เรื่องราว ความสนุกของฝรั่งในยุคนี้มันมากขึ้น คงต้องเพิ่มเวลาอีก 20 ปีถึงจะคิดได้ ตอนนี้เลยมีกระแส จริงๆ มีมานานพอควรว่า

 "จริงๆ แล้ว ชีวิตเริ่มต้นตอนอายุ 60 ปี " ต่างหากเล่า

   บางคนว่าเพราะคนสมัยนี้อายุยืนขึ้น อาจารย์ไม่ค่อยเชื่อนะ น่าจะเพราะมีเรื่องทางโลกให้สนุกมากขึ้นต่างๆ หาก แต่ก็อาจจะเป็นได้ แต่หากคนญี่ปุ่น หรือคนในบัลกาเรีย หรือ ในรัฐหนึ่งของอินเดีย ที่ต่างมีอายุ ยืน 85-100ปีพูดอาจารย์สมควรเชื่อ เพราะนับจาก 60ปี ไปถึง 100 ปี นี่คือชีวิตของผู้ใหญ่ได้อีก 1 คนเลยว่าไหม

   อาจารย์จึงขอฝากข้อเขียนนี้ไว้ให้ได้ทบทวนกัน ว่า ยังหนุ่มสาวอย่างเพิ่งท้อ  สั่งสมประสบการณ์เอาไว้ ถ่ายทอดให้คนรุ่นหลัง ออมเงิน เรียนเพิ่ม ดูแลร่างกายดีๆ ห่างอบายมุข ถือศีล 5 กินนอนตรงเวลา อยู่อาศัยให้สบายๆ พอ 40 คุณจะเป็น คนอายุ 40 ปีที่คุณภาพดีกว่าเพื่อนๆ ทุกคน ไม่นับเรื่องเงิน
แต่นับเรื่องความพร้อมในภาพรวม จงมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิตก่อน 40 ปี และมีการเตรียมพร้อม จากนั้นคุณจะได้เสวยสุขหลัง 40 ปี ไปจวบจนสิ้นอายุขัยอย่างมีความสุข สวัสดีครับ

อาจารย์สันต์ ฮวงจุ้ยสยาม

Comments

Popular posts from this blog

การทำเกษตรผสมผสาน

คำคมจาก หนังสร้างแรงบันดาลใจ: The Pursuit of Happyness