Posts

Showing posts from 2016

ใครที่ท้อเเท้ เเนะนำให้ดูคลิปนี้

Image
ใครที่ท้อเเท้ เเนะนำให้ดูคลิปนี้ ถ้าคุณกำลังเหนื่อยหรือท้อกับการทำงาน เราอยากให้คุณดูสิ่งนี้ แล้วคุณจะพบว่ามีใครคนหนึ่ง ที่เหนื่อยกว่าเราเยอะครับ ทรงพระเจริญ

“แนวคิดบริหารเงินตามรอยพ่อหลวง”

Image
“แนวคิดบริหารเงินตามรอยพ่อหลวง” พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงได้เงินค่าขนมอาทิตย์ละครั้ง กระนั้นพระองค์ก็ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย และเมื่อทรงได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูกเพิ่ม รวมไปถึงเก็บออมเพื่อซื้อของเล่นและหนังสือที่อยากได้ด้วยตัวพระองค์เอง ถือเป็นคุณูปการสำคัญที่ทำให้ในหลวงทรงเรียนรู้หลักความพอเพียงสมถะมาตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ จนกระทั่งสมเด็จย่ามีพระดำรัสในเวลาต่อมาว่า “ในสวนจิตรเนี่ย คนที่ประหยัดที่สุดคือ ในหลวง ประหยัดที่สุดทั้งน้ำ ทั้งไฟ เรื่องฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยไม่มี” การบริหารเงินของพระองค์นั้นทำให้เราได้แง่คิดเกี่ยวกับเงินที่สามารถน้อมนำมาใช้ มาปฏิบัติตามได้ดังนี้ ประหยัด ใช้จ่ายไม่เกินตัว: จะเกิดการออมได้ก็ต้องรู้จักประหยัด ไม่ใช้จ่ายเกินตัว และรู้จักซื้อของเมื่อเงินพร้อม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญกับการใช้ชีวิตของคนเรามากๆ หากทำตามที่พระองค์ทำได้ ย่อมนำมาซึ่งชีวิตที่พอเพียง ไม่ขัดสน ไม่เป็นหนี้ ตั้งเป้าหมายการออม: การ “ออมเงิน” เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งตัวอย่างของการฝึกออมนั้นพระองค์ทรงทำให้เห็นแล้ว ด้วยการตั้งเป้าหมายการออมไว้ ซึ่งก็คือ “ของเล่นและหนัง
Image

5 วิธี พัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน

Image
[Efficiency Tips] Lean Supply Chain by TMB 5 วิธี พัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน 1) ตั้งเป้าหมายในการพัฒนางาน การทำงานในแต่ละช่วงเวลาต้องมีการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเราต้องการจะไปถึง ณ จุดใด เช่น ปีนี้เราต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้อย่างน้อย 20 2) คิดและทำอย่างเป็นระบบ วิธีการง่ายๆในการพัฒนาระบบงานคือ ลองกำหนดว่างานแต่ละงานต้องทำอะไรบ้าง ทำไปทำไม กิจกรรมไหนเป็นกิจกรรมหลัก กิจกรรมไหนเป็นกิจกรรมรอง แล้วรองลากเส้นเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมต่างๆดูว่าเป็นอย่างไร อะไรเป็นหัวใจสำคัญของงานนั้นๆ อะไรเป็นจุดที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จุดเริ่มต้นอยู่ที่ไหน จุดสิ้นสุดอยู่ที่ไหน สิ่งที่องค์กรต้องการจากงานนั้นๆคืออะไร แล้วให้ลองเขียนเป็นคู่มือวิธีการในการปฏิบัติงานเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อนำไปปฏิบัติดู ถ้าติดขัดตรงไหนก็ให้แก้ไขที่คู่มือ นำไปใช้จนเกิดเป็นนิสัย ไม่ใช้ทำงานแบบอาศัย “กึ๋นและเก๋า” เพียงอย่างเดียว หรืออาศัยประสบการณ์เดิมเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัย “ระบบ” ให้มากยิ่งขึ้น 3) จัดลำดับความสำคัญของงานก่อนลงมือทำ เวลาในการทำงานที่เราสูญเสียไปส่วนมากมักจะเสียไปกั

ตีบทแตก! คณบดี มช. ปลอมตัวเป็นลุงเก็บขยะ แฝงคติให้นศ.รู้ค่าความเป็นคน

ตีบทแตก! คณบดี มช. ปลอมตัวเป็นลุงเก็บขยะ แฝงคติให้นศ.รู้ค่าความเป็นคน อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/680847

งานคืองาน งานสร้างคุณค่าของคน ไม่ใช่งานคือเงิน

สนใจ รู้หน้าที่ และอยู่กับงานของตนเอง ใส่ใจ พัฒนางานตนเองให้ดีมีมาตรฐาน แค่นี้ก็ทำงานได้ด้วยความสุข : งานคืองาน งานสร้างคุณค่าของคน ไม่ใช่งานคือเงิน

“Six Thinking Hats” การคิดแบบหมวก 6 ใบ

Image
“ Six Thinking Hats” การคิดแบบหมวก 6 ใบ ดร.เอ็ดเวิร์ด เดอ โบ โน เป็นปรมาจารย์ทางด้านการคิดชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงรู้จักกันทั่วโลก เขาได้ศึกษาและคิดค้นวิธีคิด ( Thinking Method) เพื่อช่วยให้มนุษย์มีการคิดที่มีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์ และครอบคลุม รอบด้านยิ่งขึ้น เดอ โบ โน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1935 จบการศึกษาทางด้านการแพทย์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เขามีความ สนใจเรื่องการทำงานของสมอง และใช้เวลาค้นคว้าในเรื่องทักษะการคิดมาเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี โดย เดอ โบ โน ไม่เห็นด้วยกับวิธีคิดในรูปแบบเดิม ที่คนเรามักนิยมทำกันเมื่อถกเถียงหรืออธิบายหาเหตุผล (นั่นคือเอาข้อเท็จจริง อารมณ์ หรือเหตุผลส่วนตัว มาปะปนกันในการถกเถียงเพื่อหวังเป็นผู้ชนะ) เดอ โบ โน เชื่อว่าวิธีการคิด การหาเหตุผลดังกล่าวข้างต้นเป็นวิธีที่ผิดและเสียเวลา ดังนั้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 1970 เขาจึงเสนอวิธีคิดแบบ   Six Thinking Hats  หรือ   การคิดแบบหมวก 6 ใบ   ขึ้น โดยแยกกรอบความคิดออกเป็นด้านๆ อย่างชัดเจน จากนั้นจึงวิเคราะห์หา เหตุผลภายในกรอบความคิดนั้นๆ อันจะช่วยพิจารณาสิ่งต่างๆ ได้ครอบคลุม และมีคุณภาพมากขึ้น แทนท

THINKING OUTSIDE THE BOX. WHAT BOX?

Image
6 ด้านที่เป็นอุปสรรคความคิดสร้างสรรค์ FEAR ความกลัว . KNOWLEDGE ความรู้ . HABIT นิสัย , ความเคยชิน .  RULES  กฏระเบียบ ข้อบังคับ กติกา .  ASSUMPTION   ทึกทักเอา, นึก, สมมุติ, สันนิษฐานไว้ก่อน และ  COMPLACENCY  การ คิดว่าดีอยู่แล้ว   Challenge:   Get a notebook, label it “our box” and start drawing your box.   (Not all boxes are bad, but some may be limiting your success.)

ธรรมะจากเรื่องพระมหาชนก...วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ บุคคลพ้นทุกข์ได้เพราะความเพียร

Image
ธรรมะจากเรื่องพระมหาชนก พุทฺธวิริโย  ภิกฺขุ - - ผู้เขียน                  ได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่อง " พระมหาชนก " ฉบับการ์ตูน  ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดัดแปลงมาจากชาดก  จึงอยากให้ทุกท่าน  มีหนังสือเล่มนี้ไว้ประจำบ้าน  เพราะราคาไม่แพง  แค่เพียงเล่มละ ๓๕ บาทเท่านั้น  ผู้ใดได้อ่านหนังสือเรื่องพระมหาชนก  ก็เหมือนกับได้เข้าเฝ้าในหลวง ณ เบื้องพระยุคลบาท                    ธรรมะข้อแรก   ที่ได้จากเรื่องพระมหาชนก  ก็คือ การตั้งสัตยาธิษฐาน ของพระโปลชนกที่ว่า  "ถ้าข้าพเจ้าคิดไม่ซื่อกับพระเชษฐาจริง  ขอให้เครื่องจองจำจงคงตรึงมือและเท้าของข้าพเจ้าไว้  แม้ประตูก็จงปิดสนิท  แต่ถ้าข้าพเจ้ามิได้มีจิตคิดทรยศ  ขอให้เครื่องจองจำจงหลุดจากมือและเท้าของข้าพเจ้า  แม้ประตูก็จงเปิดออก"                   คำว่า  "สัตยาธิษฐาน"   แยกได้สองคำดังนี้คือ  สัจจะ + อธิษฐาน  หมายความว่า  ให้ตั้งสัจจะขึ้นมาก่อน  แล้วจึงอธิษฐานตามหลัง  ดังเช่นที่พระโปลชนก ตั้งสัจจะว่า  "ถ้าข้าพเจ้าคิดไม่ซื่อกับพระเชษฐาจริง"   แล้วจึง อธิษฐานตามหลังว่า  "ขอใ

ฉลาดใช้ & ออมเงินแบบสาวนาโกย่า

Image
Posted by   เกตุวดี Marumura   on   15/3/2559 8:00:00 นาโกย่า เป็นเมืองใหญ่อันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น รองจากโตเกียวและโอซาก้า รอบนอกเมืองเป็นที่ตั้งบริษัทขนาดใหญ่ เช่น  โตโยต้า และ  Denso คนญี่ปุ่นทั่วไปมักมองว่า คนนาโกย่าใช้เงินฟุ่มเฟือย เนื่องจากคนเมืองนี้นิยมสินค้าแบรนด์เนม การแต่งงานของคนจังหวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องความอลังการ ฟุ่มเฟือย ทว่าหากดูตัวเลขเงินออมทั่วประเทศจะพบว่า คนนาโกย่าเก็บเงินได้มากเป็นอันดับ 5 เมื่อเทียบกับคน 47 จังหวัดทั่วประเทศ ขณะเดียวกันอัตราหนี้ในครัวเรือนก็ต่ำมาก ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการเก็บออมเงินคงหนีไม่พ้นสตรีนาโกย่านั่นเอง จากบทความ “สอนลูกฉบับนาโกย่า” ดิฉันประทับใจในความฉลาดหลักแหลมของคุณแม่ชาวนาโกย่าเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น พวกเธอสอนลูกสาวว่า ถ้าจะเลือกแฟน อย่าดูแค่หน้าตา ต้องดูคนที่รู้จักประหยัดมัธยัสถ์ หรือมีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง เพราะผู้ชายเหล่านี้จะไม่ตกงานง่าย ๆ ในสายตาดิฉัน สาวนาโกย่าจึงเป็นผู้หญิงที่ฉลาด รู้จักวางแผน ดิฉันจึงลองค้นหาเทคนิคการ ออมเงิน ของพวกเธอ บอกได้เลยค่ะว่า ไม่ผิดหวัง .... พวกเธอมีวิธีการออมเงินแบบพิเศษจริง ๆ “ใค

8 สิ่งที่ควรจะเลิกอายได้แล้ว

Image

รถขยะ

Image
สมุดปกขาว July 25, 2015  ·  รถขยะ(อ่านให้จบ แล้ววันนี้ทั้งวันจะเป็นวันที่ดีของคุณ) วันนั้นผมได้ใช้บริการรถแท็กซี่เพื่อไปสนามบิน ขณะที่เรากำลังวิ่งมาดีๆนั้น จู่ๆก็มีรถคันหนึ่งโผล่พรวดออกมาจ ากซอยตัดหน้าเราอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย โดยสัญชาตญานโชเฟอร์แท็กซี่กระทืบเบรกอย่างแรงจนรถไถลไปหยุดห่างจากรถคันนั้นแค่คืบเดียว แต่กลับเป็นเจ้าของรถคันนั้นที่ทำสีหน้าขึงขังพร้อมตะโกนด่าใส่เราอย่างน้ำไหลไฟดับ ขณะที่โชเฟอร์แท็กซี่ยิ้มตอบให้เขา ผมสังเกตุเห็นว่าโชเฟอร์แท็กซี่ไม่มีอารมณ์โกรธตอบเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นผมถามโชเฟอร์ว่าทำไมคุณถึงทำอย่างนั้น ชายคนนั้นเกือบทำให้รถคุณพังและคุณกับผมอาจต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยซ้ำ... โชเฟอร์ตอบกลับมาว่า คนสมัยนี้เหมือนกับรถขยะที่บรรทุกล้นปลี่ไปด้วยความโกรธ ความเกลียด ความเครียด ความกลุ้มใจ ความผิดหวัง วิ่งผล่านเต็มไปหมด เมื่อขยะของเขาเพิ่มขึ้นๆ เขาก็ต้องหาที่ปลดปล่อยมันบ้าง ซึ่งบางครั้งเขาก็อาจเทมันลงมาที่คุณก็อย่าไปถือสาเลย ยิ้มและอวยพรให้เขาโชคดีก็พอ จงอย่าเก็บเอาขยะนั้นมาและไปโปรยให้คนที่ทำงาน ที่บ้าน หรือที่ถนนต่อล่ะ.. สังเกตุมั้ยว่าคนที่ประส

ทำไมอัจฉริยะจึงชอบเดินคิด เดินคุย ?

Image
ทำไมอัจฉริยะจึงชอบเดินคิด เดินคุย ? สตีฟ จ๊อบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท แอปเปิ้ล ชอบเดินประชุมมากกว่านั่ง โดยเฉพาะในการพบกันครั้งแรก และ การพูดคุยเรื่องที่ตัดสินใจยาก จ๊อบส์ จะเลือกเดินสนทนา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ค เป็นอีกคนที่ชอบเดิน มาร์คมักจะพาคนที่เขาต้องการรับเข้าทำงาน เดินจากสำนักงานใหญ่ของบริษัท ไปยังจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองโดยรอบ เมื่อครั้งที่ กุสตาฟ มาห์เลอร์ คีตกวีชาวออสเตรียน ไปขอคำปรึกษาปัญหาชีวิตสมรสจาก ซิกมุนด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) นักจิตวิเคราะห์ผู้โด่งดัง ฟรอยด์ ได้พามาห์เลอร์ เดินคุยนานถึง 4 ชั่วโมง นอกจากนี้ ลูกศิษย์คนโปรดของฟรอยด์ ก็ยังเปิดเผยว่า ฟรอยด์ใช้วิธีเดินสอนในตอนเย็นเป็นประจำ ชาร์ล ดิกเกนส์ (Charles Dickens) นักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษ เดินวันละ 20 ไมล์ หรือ ประมาณ 32 กิโลเมตร ในเวลากลางคืน ดิกเกนส์เล่าว่า หากไม่สามารถเดินให้เร็วและไกลได้ เขาคงจะต้องตายอย่างแน่นอน ชาร์ล ดาร์วิน (Charles Darwin) นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ เดินวันละ 3 รอบ รอบละ 45 นาที รอบแรกเขาจะเดินก่อนอาหารเช้า รอบสองก่อนอาหารเที่ยง และรอบที่สามหลั

หัวใจเศรษฐี...ข้อแรกคือ... ต้องเปลี่ยนวิกฤติ...ให้เป็นโอกาส...

Image
สมคิด ลวางกูร December 18, 2015  ·  หัวใจเศรษฐี...ข้อแรกคือ... ต้องเปลี่ยนวิกฤติ...ให้เป็นโอกาส... คนที่จะรวย...จะต้องคิดอยู่ตลอดเวลาว่า... วิกฤติ...ของคนทั่วไป...มันอาจเป็นโอกาสของเราก็ได้... เพราะฉะนั้น...ทุกครั้งที่เจอวิกฤติ...เราต้องเอามานั่งคิดว่า... ในวิกฤตินั้น...มีโอกาสอะไรให้เราบ้าง... ถ้าคุณเจอ...ความรวย...ก็จะวิ่งมาหาคุณ... คนจะรวย...ต้องคิดเป็น... คนที่คิดเป็น...ต้องคิดให้แตกต่างจากคนอื่น... การเปลี่ยนวิกฤติ...ให้เป็นโอกาส...ไม่ใช่เรื่องยาก... คิดต่างกัน...จึงรวยต่างกัน... เหมือนครั้งที่คนไทย...เจอสงครามโลก... ทุกคนตกอกตกใจ...ร้องห่มร้องไห้...วิตกกังกล...หวาดกลัว... ขนลูกขนเต้า...แก้วแหวนเงินทอง...ทรัพย์สมบัติมีค่า... หนีภัยสงครามหัวซุกหัวซุน... คนไทยทั้งประเทศ...นั่งคอตกกลุ้มกับสงคราม... ทุกคนมองว่า...สงคราม...เป็น...วิกฤติ... มีคนจีนกลุ่มหนึ่ง...ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย... คนกลุ่มนี้...คิดไม่เหมือนคนไทย... พอเกิดสงครามปุ๊บ...เขามานั่งสุมหัวกันเลย...ช่วยกันคิด... เขาคิดว่า...เขาจะหาโอกาส...จากสงครามได้อย่างไร... พอสงครามจบปุ๊บ... คนไทย...เจอพิษสงคร

10 ประการที่ญี่ปุ่นก้าวหน้าระดับโลก

Image
10 ประการที่ญี่ปุ่นก้าวหน้าระดับโลก 1. ญี่ปุ่นสอนตั้งแต่ชั้น ประถม 1 ถึง ประถม 6 วิชาหนึ่ง ชื่อว่า "ทางสู่จริยธรรม" เพื่อเผชิญชีวิตในอนาคต 2. ไม่มีการสอบตก ตั้งแต่ประถม 1 ถึง มัธยมต้น เนื่องจากจุดประสงค์คือ การอบรม ปลูกฝังแนวคิด และเสริมสร้างบุคลิกภาพ ไม่เพียงแต่ให้ความรู้และคำสั่ง 3. ถึงแม้เป็นประเทศที่ร่ำรวย แต่พวกเขาไม่มีคนใช้ พ่อและแม่รับผิดชอบภายในบ้านและลูกๆ 4. เด็กๆ ทำความสะอาด ที่โรงเรียนทุกวัน 15 นาที พร้อมๆ กับคุณครู ซึ่งทำให้เกิดความเรียบง่าย และมีนิสัยรักความสะอาด 5. เด็กญี่ปุ่น จะแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร จึงทำให้ติดนิสัยรักสุขภาพตั้งแต่เยาว์วัย 6. ผู้อำนวยการโรงเรียนจะกินอาหารของนักเรียนก่อน เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง เพื่อความแน่ใจและความปลอดภัยของนักเรียน พวกเขาตระหนักอยู่เสมอว่า เด็กๆ เป็นอนาคตของญี่ปุ่นที่พวกเขาต้องปกป้อง 7. พนักงานทำความสะอาด พวกเขาเรียกกันว่า "นายช่างสุขภาพ" เงินเดือน 5,000 ถึง 8,000 ดอลล่าร์อเมริกา ตามระดับของการทดสอบและสัมภาษณ์ 8. ห้ามใช้โทรศัพท์บนรถไฟ ภัตตาคาร สถานที่ปกปิด ที่ต้องการความเงียบ เป็นมาตรฐานที

3 เทคนิควิเศษ ที่จะเสกให้คุณพูดอังกฤษเก่งเหมือนเจ้าของภาษา

3 เทคนิควิเศษ ที่จะเสกให้คุณพูดอังกฤษเก่งเหมือนเจ้าของภาษา คนไทยนับล้านฝันอยากจะพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนเจ้าของภาษา แต่ฝันก็คงเป็นได้แค่ฝันถ้าคุณไม่เคยทำตาม 3 ขั้ นตอนต่อไปนี้เลย 1. ความมุ่งมั่น ถ้าอยากพูดภาษาอังกฤษเก่งเหมือนเจ้าของภาษา คุณต้องใช้เวลาและความพยายามให้มากพอ โดยเฉพาะคนที่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษช้า และเมื่อคุณอายุมากขึ้น การเข้าถึงภาษาอังกฤษก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ยาก เพราะกล้ามเนื้อปากของคนที่อายุมากนั้นจะใช้ฝึกออกเสียงได้ยาก ดังนั้นการเรียนภาษาอังกฤษที่ดี ควรเริ่มจากความมุ่งมั่นและพยายามอย่างไม่ลดละ อีกข้อสำคัญคือการวางเป้าหมายที่ชัดเจนในการเรียนภาษาอังกฤษ ที่จะช่วยให้คุณเกิดแรงจูงใจมากพอที่จะเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายเพื่อ “พิชิต” ภาษาอังกฤษ 2. เลือกให้ดีระหว่าง “British English” กับ “American English” ถ้าคุณไม่เลือกระหว่าง “British English” กับ “American English” ตั้งแต่ตอนเริ่มเรียน การแยกแยะความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษทั้งสองแบบนี้จะกลายเป็นเรื่องที่ยากมากในภายหลังทันที เพราะภาษาอังกฤษทั้งสองแบบนี้อาจจะมีบางคำที่สะกดเหมือนกันแต่ออกเสียงต่างกัน นอกจากนั้นยังมีหลักในการออ